Homebound Hustle
THuNG’s Country Chaos
Can you believe it? They told me we were going home in the countryside, but ever since we arrived in Hat Yai, Por and Mom haven’t stayed home for a single full day. Is this what they call going hometown? They’re out and about every single day, always busy with something. Even on days without any plans, they find an excuse to go out for coffee, even though they brought their own coffee machine from Bangkok and use it every morning.
When I asked why they need to go out every day, they said they’re bored. Bored? They get to leave the house every day, but what about me? Since we got to Hat Yai, I haven’t gone anywhere. Don’t they think I get bored too? The reason I’m stuck here is because there are three resident cats who constantly meow at me. I don’t understand how Por and Mom can leave me alone in the house with these other cats around. Don’t they realize I might be scared?
When I complained, they said they’d only be gone for a bit. Haven’t they heard that you shouldn’t leave cats or kids unattended because it can be dangerous? They said they’d left food, water, and a clean litter box for me, and even turned on the fan and closed the doors and windows to keep the other cats in. But what if someone else in the house opens the door and those cats come in? What if they attack me? It’s exhausting trying to teach these humans about responsibility and the importance of taking care of a living being like me.
But humans can learn. Since I taught them a lesson, they’ve improved and pay more attention to me. Maybe too much attention. Mom is super excited now and says she wants to take me on trips all the time. She says that since we left Bangkok, I’ve been more affectionate. Well, of course! It’s called survival instinct. If you had to travel for 14 hours and then stay in an unfamiliar place with strange people and animals, wouldn’t you seek comfort from the person who takes care of you? Even if Mom is a bit clueless, I know she loves and protects me.
As for Por, he’s exhausted just from driving and taking care of Mom. Once we get back to Bangkok, I’ll go back to giving him all my affection.
Ah, I almost forgot. Por took me out for a walk once. He waited until he was sure the three local musketeers weren’t home, then he dared to take me out for a walk. Wow, I was so amazed, it was indescribable. It was so open and wide; you could see as far as the eye could see. It was nothing like the tall and big buildings, crowded people, and busy traffic in Bangkok. It wasn’t exactly silent either, but there were sounds that weren’t the noise of engines constantly in the background. It wasn’t scary, but it wasn’t exactly comforting either. So, for safety, I decided to sit under dad’s car like this.
P.S. Let’s be clear: Por is the only one in my heart. Mom? I’m just using her for treats and comfort. Oops, I think I heard someone getting upset. I’d better go soothe Mom now. Honestly, just sitting next to her is enough to make her forget she was ever mad at me.
ตื่นตาตื่นใจในหาดใหญ่
ถุงละเชื่อเลย พวกมนุดบอกถุงว่า กลับบ้านที่ต่างจังหวัด แต่เชื่อป่ะ ตั้งแต่มาถึงหาดใหญ่ ไม่มีวันไหนที่ป้อกับแม่จะอยู่ที่บ้านทั้งวัน โดยไม่ออกไปไหน แบบนี้เขาคือเรียกว่ากลับบ้านจริงๆ เหรอคะ เห็นวันๆ ตะลอนๆ ไปไหนมาไหนทั้งวันทุกวันจริงๆ ไม่รู้มีธุระปะปังพบปะประชาชนกันถึงไหน บางวันไม่มีนัด ก็หาเรื่องออกไปกินกาแฟนอกบ้าน ทั้งๆ ที่ก็ขนเครื่องชงกาแฟมาจากกทม.แล้วก็ชงกินเองทุกเช้าอยู่แล้ว
พอถามว่า ทำไมต้องออกทุกวัน ก็บอกว่าเบื่อ อ้าว ตัวเองออกจากบ้านทุกวันยังเบื่อ แล้วถุงล่ะ ตั้งแต่มาถึงหาดใหญ่ ได้ออกไปไหนบ้าง คิดว่า ถุงไม่เบื่อรึไง ห๊ะ ส่วนสาเหตุที่ถุงไม่ได้ออกไปไหนเลย เป็นเพราะบ้านหลังนี้มีแมวเจ้าถิ่นอยู่ตั้ง 3 ตัว ถุงอะนะได้ยินเสียงมันร้องหาเรื่องถุงอยู่ทุกวัน ถุงไม่เข้าใจทำไมป้อกับแม่กล้าปล่อยให้ถุงอยู่บ้านคนเดียว ไม่คิดว่าถุงจะกลัวบ้างรึไงคะ
พอถุงบ่นโวยวายเข้าหน่อย ก็อ้างว่า ออกไปแป๊บเดียวเอง นี่ถามจริงๆ ไม่เคยได้ยินเหรอที่เขาบอกว่า เลี้ยงเด็กเลี้ยงแมว ห้ามคาดสายตานะคะ เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ตลอดเวลา นั่น อ้างอีกว่า ก็เตรียมอาหารเครื่องดื่ม ห้องน้ำให้เรียบร้อยแล้ว เปิดพัดลมให้ด้วย แถมปิดประตูหน้าต่าง ป้องกันไม่ให้แมวตัวอื่นเข้ามาได้ แล้วยังไงคะ ถ้าคนอื่นในบ้านเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ระวัง แล้วแมวตัวอื่นเข้ามากัดถุง ป้อกับแม่จะทำยังไง เฮ้ออ ถุงละเหนื่อยกับการสอนมนุดให้รู้จักความรับผิดชอบ และตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งมีชีวิตที่ยอมลดตัวมาให้มนุดเลี้ยงอย่างถุงถุงบ้าง
แต่มนุดก็รู้จักเรียนรู้เนอะ ตั้งแต่ถุงสอนไป เขาก็รู้จักพัฒนาปรับปรุงตัวใส่ใจถุงมากขึ้น เอ๊ะ รึมากไป เพราะนังแม่นะ ดี๊ด๊ามากๆ เลยค่ะ บอกว่า อยากพาถุงไปต่างจังหวัดตลอดๆ เลย ชีบอกว่า ตั้งแต่เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ถุงอ้อนแม่เก่งขึ้น โธ่เอ้ย เขาเรียกว่าภาวะจำยอมเถอะค่ะ ก็ลองคิดนะ ถ้าคุณต้องเดินทางนาน 14 ชั่วโมง แล้วต้องมาอยู่ในสถานที่ที่คุณไม่คุ้นเคย ท่ามกลางผู้คนสิงสาราสัตว์เยอะแยะ คุณก็ต้องหาคนที่เทคแคร์ดูแลและปกป้องคุณเป็นอย่างดีใช่มั้ยละ ถึงแม่จะงอแงงี่เง่าฉลาดน้อย แต่ถุงก็รู้แระว่า แม่รักและปกป้องถุงได้เสมอ
ส่วนป้อนะเหรอ แค่ต้องขับรถคอยให้บริการนังแม่ ก็เหนื่อยจนหมดแรงแล้ว เอาไว้ให้เรากลับไปกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ ค่อยกลับไปอ้อนป้อเหมือนเดิมก็ยังทันค่ะ
อ๊ะ ถุงเกือบลืมค่ะ ป้อพาถุงออกไปเดินเล่นนอกบ้านครั้งนึงค่ะ ป้อรอจนมั่นใจว่า สามทหารเสือเจ้าถิ่นไม่อยู่บ้าน เลยกล้าถุงออกไปเดินเล่น โอ้โห ถุงนี่ตื่นตาตื่นใจอธิบายไม่ถูก มันโล่งกว้าง มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่เห็นตึกสูงๆ ผู้คนเยอะแยะ รถราขวักไขว่ เหมือนในกรุงเทพฯ เลยค่ะ จะว่าเงียบสงัดก็ไม่ใช่ แต่มีเสียงอะไรที่ไม่ใช่เสียงเครื่องยนต์กลไกดังมาตลอดๆ เลยค่ะ จะว่าน่ากลัวก็ไม่ใช่ สบายใจก็ไม่เชิง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ถุงขอนั่งตรงใต้รถยนต์ป้อแบบนี้แระกันค่ะ
ปล. ถุงบอกตรงนี้เลยนะคะว่า ป้อคือหนึ่งเดียวในใจถุงเท่านั้น ส่วนแม่อะนะ ถุงคบเพื่อผลประโยชน์เท่านั้นค่า อุ้ย ถุงได้ยินเสียงคนงอแงโวยวายไม่พอใจ งั้นถุงไปปลอบใจนังแม่ก่อนนะคะ (จริงๆ แค่ถุงไปนั่งใกล้ๆ โดยไม่ต้องทำอะไร นังแม่ก็ลืมไปหมดแล้วว่า เคยงอนถุง)